Chart Pattern
รูปแบบของ Chart Pattern ต่างๆที่สำคัญที่ใช้ในการเทรดจะมีหลายรูปแบบนะครับ มาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. รูปแบบกลับตัว (Reversal Patterns)
คือ วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของราคาที่เคลื่อนที่มา ณ ตำแหน่งที่มีนัยสำคัญ แนวโน้มที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมามีโอกาสที่จะหมดไป และกำลังจะเกิดเป็นแนวโน้มใหม่ที่ตรงข้ามกับแนวโน้มเดิม ซึ่งมีรูปแบบตามนี้
Broadening Formation, Right Angled and Ascending
รอให้ทะลุจุดต่ำสุดเดิมแล้วกลับมาทดสอบบริเวณที่ทะลุผ่านสังเกตพฤติกรรม ของกราฟ ถ้าอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิม ก็ให้ Sell ตามได้เลย เหตุผลที่ว่าทำไมต้องรอให้ราคามันทะลุผ่านไปก่อน เพราะโดยธรรมชาติของกราฟ เมื่อทะลุผ่าน ด้านใดด้านหนึ่งแล้ว กราฟ จะกลับมาทดสอบตำแหน่งที่เคยทะลุก่อนหน้านี้นั้นเอง
Bump-and-Run Reversal Bottoms
วิธีการทำกำไร ให้เรารอให้มันทะลุเทรนก่อน รอให้ราคาวิ่งกลับลงมาทดสอบเส้นที่ทะลุและดูพฤติกรรมของราคา ว่าสามารถยืนเหนือเส้นที่ทะลุได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ให้ BUY ตามเลยครับ
Diamond Bottoms
ราคาเคลื่อนที่ตามแนวโน้มขาลง แล้ว ทำรูปแบบเหมือนกับ เพชร ก่อนที่จะทะลุขึ้นไป เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก พฤติกรรมของ Diamond Bottoms นี้มาจากนักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางของตลาดจึงรอดูปัจจัยที่กำลังจะเกิดขึ้น วิธีการทำกำไร ให้เรารอให้มันทะลุเทรนก่อน รอให้ราคาวิ่งกลับลงมาทดสอบเส้นที่ทะลุดูพฤติกรรมของราคา ว่าสามารถยืนเหนือเส้นที่ทะลุได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ให้ BUY ตามเลยครับ
Double Bottoms
เกิดขึ้นกับตลาดขาลงที่กำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นมีลักษณะเหมือนตัว อักษร W คือมีจุดต่ำสุดสองตำแหน่งอยู่บริเวณราคาเดียวกันพฤติกรรมรูปแบบนี้เกิดจาก ราคาลงมาทดสอบแนวรับเดิม แล้วไม่ผ่านจึงดิ่งตัวขึ้นไป วิธีการทำกำไร ให้รอดูที่จุดต่ำสุดตำแหน่งที่2 ถ้าไม่สามารถทะลุลงมาได้ก็แสดงว่ากำลังจะเกิดDouble Bottoms ให้เข้าออเดอร์ Buy ตามได้เลย
เกิดขึ้นกับตลาดขาขึ้นที่กำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงมีลักษณะเหมือนตัว อักษร M คือมีจุดสูงสุดสองตำแหน่งอยู่บริเวณราคาเดียวกันพฤติกรรมรูปแบบนี้เกิดจาก ราคาขึ้นมาทดสอบแนวต้านเดิม แล้วไม่ผ่านจึงร่วงลงไป วิธีการทำกำไร ให้รอดูที่จุดสูงสุดตำแหน่งที่2 ถ้าไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ก็แสดงว่ากำลังจะเกิดDouble Topให้เข้าออเดอร์ Sell ตามได้เลย
Head and Shoulders
วิธีการทำกำไรคือรอให้ราคาทะลุแนวรับของจุดต่ำสุดก่อนเมื่อราคากลับมาทดสอบที่เคยทะลุ ดูพฤติกรรมราคาถ้าจะลงต่อแล้วให้ Sell
วิธีการทำกำไรคือรอให้ราคาทะลุแนวต้านของจุดสูงสุดก่อนเมื่อราคากลับมาทดสอบที่เคยทะลุดูพฤติกรรมราคาถ้าจะขึ้นแล้วให้ Buy ตาม
Scallops, Ascending
เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลงที่กำลังจะหมดแรงขายและเริ่มเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น มีลักษณะ เหมือนตัวอักษร J โดยที่กราฟจะวิ่งไปตามเส้นแนวโน้ม คือลงมาทำจุดต่ำสุดแล้วค่อยๆวิ่งขึ้นไปจนเปลี่ยนเทรนเป็นแนวโน้มขาขึ้นนั้น เอง พฤติกรรมรูปแบบนี้เกิดจาก ตลาดเริ่มหมดแรงฝั่งผู้ขายแล้ว อีกทั้งจำนวนการซื้อของฝั่งผู้ซื้อเริ่มเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเริ่มวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
Three Falling Peaks
การทำกำไรนั้น ให้สังเกตว่า Three Falling Peaks จะ เป็นเหมือน ภูเขา 3 ลูกเรียงต่อกัน เมื่อเห็นดังกว่าแล้ว เข้า ก็ปล่อยให้ราคาทะลุลงไปแล้วกลับขึ้นมาทดสอบเส้นที่ทะลุ จากนั้นถึง Sell ตาม
เกิดในแนวโน้มขาลงที่กำลังจะเปลี่ยนเทรนเป็นแนวโน้มขาขึ้น มีลักษณะมีจุดต่ำสุด 3 จุด ในบริเวณตำแหน่งราคาเดียวกันแล้วราคาจึงวิ่งขึ้นไปต่อรูปแบบ Triple Bottoms แสดงถึง แรงฝั่งผู้ขายหมดลงจนทำจุดต่ำใหม่สุดและทำให้ฝั่งผู้ซื้อเข้าทำกำไร ราคาจึงวิ่งขึ้นอีกแต่ทางด้านฝั่งผู้ขายไม่ยอมให้ขึ้นไปจึงพยายามเข้าSell ให้ลงมาที่ตำแหน่งแนวรับเดิม ซึ่งจะเป็นต่างฝั่งต่างพยายามทำราคาแบบนี้เรื่อยๆ แต่ฝั่งซื้อมากกว่า ราคาจึงวิ่งขึ้นในที่สุด ในการเข้าทำกำไรคือ รอให้ราคาทะลุจุดสูงสุดเดิมไปก่อนเมื่อราคากลับมาทดสอบตำแหน่งราคาที่เคย ทะลุผ่านก็สังเกตว่าจะสามารถกลับตัวขึ้นไปหรือไม่ ถ้าขึ้นไปให้เรา Buy ตาม
Triple Tops
เกิด ในแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังจะหมดแรงและจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น เป็นรูปแบบที่ตรงข้ามกับ Triple Bottoms มีลักษณะมีจุดสูงสุด 3 จุดอยู่ในบริเวณตำแหน่งราคาเดียวกันก่อนที่จะทะลุลง จากกราฟแสดงถึง ราคาเคลื่อนที่มา ณ ตำแหน่งแนวต้าน นักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไรแล้วเกิดแรงซื้อเพิ่มเพราะยังมองว่าเป็นการย่อตัว เพื่อขึ้นต่อทำให้ราคาวิ่งขึ้นไปอีกจนชนแนวต้านเดิมอีกก็ถูกเทขายลงมา เป็นแบบนี้ 3 ครั้ง เกิดจุดสูงสุด 3 ตำแหน่ง เมื่อนักลงทุนเห็นว่า ราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ได้ จึงเทขายทำให้ ราคาร่วงลงมา วิธีการทำกำไร คือปล่อยให้ราคาทะลุลงไปแล้วกลับมาทดสอบตำแหน่งราคาต่ำสุดก่อน แล้ว Sell ตาม
Falling Wedge
เกิดในแนวแนวโน้มขาลงเมื่อเริ่มหมดแรงขายราคาจะเริ่มวิ่งในเทรนลง ลู่เข้าเรื่อยๆ เป็นรูปสามเหลี่ยมหัวลง คล้ายกับว่าจะเปลี่ยนเป็นเทรนลงแล้ว แต่ราคากลับพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง รูปแบบนี้ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนยังรอปัจจัยทางตลาด เพื่อสนับสนุนการซื้อขายเพิ่ม
Rising Wedges
เกิดในแนวแนวโน้มขาขึ้นเมื่อเริ่มหมดแรงซื้อราคาจะเริ่มวิ่งในเทรนขึ้นลู่เข้า เรื่อยๆ เป็นรูปสามเหลี่ยมหัวขึ้น คล้ายกับว่าจะเปลี่ยนเป็นเทรนขึ้นแล้ว แต่ราคากลับร่วงลงอย่างรุนแรง รูปแบบนี้ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนยังรอปัจจัยทางตลาด เพื่อสนับสนุนการซื้อขายเพิ่ม
ต่อไปก็จะเป็นแบบที่ 2 ครับ รูปแบบต่อเนื่อง >>
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆจาก : http://www.thaiforexschool.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น