2. รูปแบบ ABC Correction

          เทรนด์ของคลื่นทั้ง 5 ซึ่งจะถูกยืนยันจากการเกิดรูปแบบกลับตัวจาก คลื่นสามคลื่นที่ตรงข้ามกับเทรนด์ ตัวอักษรจะถูกใช้แทนการใช้ตัวเลขในการนับเทรนด์ ลองมาดูตัวอย่างของการนับคลื่นแบบ Corrective 3-wave pattern! กัน



เพราะว่าเราได้ใช้ตลาดในภาวะกระทิงเป็นตัวหลักในตัวอย่างแต่ไม่ได้หมายความ ว่า Elliot Wave นั้นใช้ไม่ได้กับตลาดหมี ซึ่ง คลื่น 5-3 จะมีรูปร่างแบบนี้ :





          ประเภทของรูปแบบ Corrective Wave

       ตามที่ Elliott ได้กล่าวไว้ มีรูปแบบ Corrective Wave ABC อยู่ถึง 21 รูปแบบจากรูปแบบง่ายๆ ไปจนถึงรูปแบบที่มีความซับซ้อน
       “21 รูปแบบเลยหรอ? เราคงจำไม่ได้หมด แค่ทฤษฎีพื้นฐานก็ทำให้เรามึนไปหมดแล้ว
ใจ เย็นๆ ข้อดีของ Elliot Wave คือคุณไม่ต้องมีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไปแล้วเท่านั้นถึงจะดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนปลอมหรือว่าต้องจำรูปแบบทั้ง 21 ชนิดนี้ทั้งหมดเพราะว่ามันสร้างขึ้นมาจากรูปแบบสามรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้ ง่าย
เราลองมาดูรูปแบบสามรูปแบบนี้ รูปแบบข้างล่างนี้ใช้กับเทรนด์ขาขึ้น แต่คุณสามารถปรับใช้เทรนด์ขาลงได้เช่นเดียวกัน

    รูปแบบ Zig-Zag


     รูปแบบ Zig-zag เป็นรูปแบบกราฟทิศทางราคาที่มีความชันมากซึ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเทรนด์ คลื่น B ปกติแล้วจะสั้นเมื่อเปรียบเทียบกับคลื่น A และคลื่น C ซึ่งรูปแบบ zig zag นี้สามารถเกิดสองหรือสามครั้งใน Elliott wave Correction (มี zig zag สองถึงสามอันต่อกัน) และเหมือนคลื่นอื่นๆ คลื่นแต่ละชนิดใน Zig Zag ก็สามารถแตกย่อยเป็น 5 คลื่นได้อีกเหมือนกัน
 
   รูปแบบราบ





     รูปแบบราบนี้เป็นรูปแบบ Side way corrective wave ความราบของความยาวของคลื่นจะมีเท่าๆ กันซึ่ง คลื่น B เป็นการกลับตัวของคลื่น A และคลื่น C เป็นรูปแบบการกลับตัวของคลื่อน B อีกทีหนึ่ง อาจจะเป็นได้ว่าคลื่น B อาจจะเลยจากจุดกำเนิดของคลื่น A ได้นิดหน่อย

 รูปแบบสามเหลี่ยม

     
    รูปแบบสามเหลี่ยนเป็นรูปแบบที่ราคาเป็นคลื่นเด้งขึ้นลงอยู่ในแนวเส้นรูปสาม เหลี่ยม สามเหลี่ยมจะมี 5 คลื่นที่อยู่ในรูปสามเหลี่ยม อาจจะเป็นแบบสามเหลี่ยมหดตัวลง หรือ กว้างขึ้น

   คลื่นเล็กในคลื่นใหญ่
      เหมือนที่เราพูดไปก่อนหน้านี้ คลื่น Elliott เป็น Fractal ซึ่งคลื่นแต่ละคลื่นจะมีคลื่นเล็กๆ แทรกอยู่ เดี๋ยวเรามีภาพให้คุณดู ภาพมันอธิบายได้ดีกว่า ใช่มั๊ย? มาดูกัน !




    คุณเห็นรึเปล่าว่าคลื่นที่ 1, 3, และ 5 จะมีคลื่นเล็ก ๆ แทรกอยู่ในคลื่นเหล่านี้ และคลื่นที่ 2 และคลื่นที่ 4 ก็มี 3 คลื่นเล็กๆ แทรกอยู่ในนั้น ด้วยเหมือนกัน
คุณต้องจำไว้เสมอว่า คลื่นแต่ละคลื่นจะประกอบด้วยคลื่นเล็กๆ อีก ซึ่งรูปแบบนี้จะมีความคล้ายตัวของมันเอง จนไม่มีที่สิ้นสุด!
    ถ้าจะให้เราเข้าใจเรื่องนี้ง่ายหน่อย เราสามารถบอกได้ว่า ทฤษฎี Elliott Wave เป็นการจัดลำดับจากคลื่นที่ใหญ่สุดไปหาคลื่นที่เล็กที่สุด ซึ่งประกอบด้วย :
- Grand Supercycle
- Supercycle

- Cycle

- Primary

- Intermediate

- Minor

- Minutte

- Minuette

- Sub-Minuette
Grand Supercycle ได้มาจากคลื่นของ Supercycle มาจาก คลื่นแบบ Cycle ที่มาจากคลื่น Primary และคลื่นแบบ Primary ก็มาจากคลื่นแบบ Intermediate คลื่นแบบ Intermediate มาจากคลื่นแบบ Minor คลื่นแบบก็มาจากคลื่นแบบ Minute ก็มาจาก Minuette และคลื่นแบบ Minuete ก็มาจาก Sub-Minuette ไม่รู้ว่าพอจะเข้าใจรึเปล่า ?
โอเค เรามาทำให้ทฤษฎีที่เราได้อธิบายให้มันง่ายหน่อยกัน มาดูว่าเราจะใช้ Elliott Wave ในกราฟจริงๆ ได้ยังไง





     อย่างที่คุณเห็น คลื่นไม่ได้มีรูปร่างแบบที่เราอธิบายไปในกราฟจริงๆ คุณจะพบว่ามันยากที่จะกำหนดคลื่นด้วย แต่ว่ายิ่งคุณฝึกมากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งเข้าใจมันได้มากขึ้นเท่านั้น
อีก อย่างหนึ่ง เราจะไม่ปล่อยให้คุณศึกษามันอย่างลำพัง ในบทนี้เราจะให้เคล็ดลับกับคุณในการจะวิเคราะห์ และเพื่อให้ง่ายในการวิเคราะห์ลักษณะของคลื่น ซึ่งจะทำให้คุณ เทรดโดยใช้คลื่น Elliotte ได้ดี มาโต้คลื่นกัน!



                          เนื้อหาต่อไป : กฏที่สำคัญ 3 ข้อ และแนวทางการใช้


 1  2  3


ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆจาก : http://www.jubtadu.com/forex/basic-degree/abc-correction.html

1 ความคิดเห็น: